รีวิวเสริมหน้าอก Silimed 390 cc. (Dream Clinic)

     สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์เสริมหน้าอกให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ ก่อนเสริมหน้าอกหาข้อมูลเยอะมาก ที่เราดูไว้มี 2 คลีนิก แต่ก็มาจบที่ Dream Clinic ค่ะ สาเหตุที่เลือก Dream Clinic สิ่งสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกทำที่นี้ 80 เปอเซ็นต์ตัดสินใจจากคุณสมบัติของคุณหมอล้วนๆเลยค่ะ เพราะคุณหมอที่นี้เป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยตรงจากสถาบันในไทยและเกาหลี เป็นสมาชิกแพทยสภาสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยและอีกเยอะแยะมากมาย และที่ชอบอีกอย่างคือ คุณหมอมีเทคนิคพิเศษ Dual Plane ในการผ่าตัดซึ่งจะช่วยให้รูปทรงของเต้านมแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
     อันดับแรกเรา line ไปสอบถามกับทางคลีนิกก่อนและนัดคิวปรึกษาคุณหมอค่ะ วันที่เข้าไปปรีกษาคุณหมอก็ไม่ได้ถามอะไรหมอมากมายนัก เพราะศึกษาข้อมูลมาเยอะอยู่แล้วเพียงแต่ต้องการให้คุณหมอดูหน้าอก และประเมินหน้าอกให้เรา ว่าของเราควรจะใส่ขนาดเท่าไหร่ เราเลือกซิลิโคน Silimed เพราะตอนที่เราทำคือมีโปรโมชั่นพอดี คุณหมอตรวจดูหน้าอกของเราแล้วบอกว่า เราได้เยอะสุด 390 CC เราก็ตกลงนะ เพราะในใจก็อยากได้ประมาณนี้พอดี เราตัดสินใจทำและมัดจำวันนั้นเลยเราเลือกคิวผ่าตัดเป็นวันที่ 24/6/60 ค่ะ
     พอถึงวันทำเรามีนัดเข้ามาที่คลีนิค ก่อน 11.00 น.ค่ะ แต่ได้ทำประมาณบ่ายโมงประมาณนี้ ก็เปลี่ยนชุดรอคุณหมอในห้อง แนะนำเลยนะคะสำหรับคนที่จะเสริมหน้าอกควรใส่เสื้อกระดุมหน้า กับกางเกงที่ใส่สบายๆ พอคุณหมอมาก็มาวัดหน้าอกของเราเพื่อเตรียมสำหรับการผ่าตัด ช่วงนี้จะนานหน่อยนะคะเพราะคุณหมอต้องการความละเอียดค่ะ และคุณหมอก็จะอธิบายจุดบกพร่องในหน้าอกของเราให้เราทราบว่า เป็นอย่างไร ของเราหน้าอกข้างซ้ายจะใหญ่และสูงกว่าข้างขวานะคะ ขยาดฐานของหน้าอกข้างซ้ายก็กว้างกว่าข้างขวา แต่ขนาดใหญ่กว่ากันไม่มากนัก ขนาดซิลิโคนที่ใส่ก็เลยต้องใส่ขนาดเท่ากัน รายละเอียดของเราประมาณนี้ค่ะ ลึกกว่านี้จำมะได้แล้ว..เอาคร่าวๆแล้วกันเนอะ

รูปก่อนเสริมหน้าอก

จะเห็นได้ว่าแบนเรียบมากนี่ขนาดใส่บราแล้วนะคะ เห็นแล้วเพลียใจ*^*

   หลังเสริมหน้าอก 1 วัน

     ทางคลีนิกจะมีสปร์อตบรากับผ้ารัดหน้าอกให้นะคะ รัดไว้ทั้งวันทั้งคืนค่ะ สำหรับใครที่จะเสริมเราแนะนำให้มีคนดูแลนะคะเพราะเวลาลุกจากการนอนลุกยากมาก เพราะตอนจะลุกเราต้องเกรงตรงหน้าอกกับตรงแขน มันเจ็บอะค่ะ ต้องมีคนคอยช่วยพยุงหลังถึงลุกนั่งได้ ให้นอนหมอนสูง และหมั่นประคบเย็นนะคะ สำหรับสายเดรนเลือดพอครบ 3 วันหมอจะนัดไปถอดสายเดรนที่คลีนิค จะถอดได้ไม่ได้เดียวคุณหมอจะเป็นคนประเมินอีกทีนึง แต่สำหรับของเรา ครบ 3 วันก็สามารถถอดออกได้แล้วค่ะ เพราะวันที่ 3 เลือดก็ไม่ค่อยจะไหลออกแล้ว ถึงมีออกบ้างแต่น้อยมากค่ะ พอครบ 7 วันก็ไปตัดไหมนะคะ พอตัดไหมหมอจะติดพาสเตอร์กันแผลแยกไว้ให้ก่อน รออีก 5 วันค่ะ ถึงจะแกะออกและอาบน้ำได้

แผลสายเดรน 7 วัน

แผลผ่าตัด 13 วัน

     แผลหลังจากแกะพาสเตอร์กันแผลแยก 5 วันแล้วนะคะ อายุของแผล 13 วันค่ะ จากนี้ก็อาบน้ำได้ตามปกติค่ะ แนะนำให้ใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่อ่อนๆ ก่อนนะคะ เพราะบางทีใช้สบู่ที่แรง ๆ อาจจะแสบแผลได้ สำหรับเรา เราใช้ครีมอาบน้ำสำหรับเด็กค่ะ ทางคลีนิคจะมียาทาลดรอยแผลเป็น กับซิลิโคนซีสให้นะคะไว้สำหรับติดแผลกันแผลนูนค่ะ สำหรับใครที่มีครีมลดรอยแผลเป็นของตัวเองอยู่ก็ใช้ได้นะคะ อย่างของเรา เราไม่รู้ว่าคลีนิคจะมีให้เราก็เลยซื้อไว้ก่อน ก็เลยเอามาใช้ร่วมกันซะเลย 

อุปกรณ์ที่เราใช้รักษาแผลเป็นค่า

     สำหรับวิธีทาครีมของเรา นำไปใช้ได้นะคะ เราจะทาครีมของทางคลีนิคก่อนค่ะ ทาวนๆนวดๆจนเนื้อคลีมแห้ง จากนั้นจึงทาครีมลดรอยแผลเป็นของเราเองซ้ำลงไปอีทีนึงค่ะ แล้วตบท้ายด้วยติดซิลิโคนซีส เราพกยารักษาแผลของคลีนิคไปทาตอนเที่ยงด้วยนะคะถ้ามีเวลา เราจะทา เช้า กลางวัน เย็นเลย เพื่อผลลัพที่ดีค่ะ

รูปหลังเสริม 6 วัน

     แนะนำเพือนๆที่เสริมหน้าอกนะคะ ซื้อซับพอร์ตบาร์มาใส่เปลี่ยนกันกับ สปร์อตบาร์ที่ทางคลีนิคให้ก็ดีนะคะ ไม่กดทับแผลแถมยังช่วยพยุงเต้านมทำให้นมเราเข้าที่มากขึ้นด้วย เราใส่หลังจากถอดสายเดรนเลือดค่ะ

แผลสายเดรน 1 เดือน ซ้าย-ขวา

รูปแผลผ่าตัด 1 เดือน

รูปนม 1 เดือนค่ะ

     พอครบ 1 เดือนคุณหมอจะนัดเราเข้าไปตรวจดูนมนะคะว่าเข้าทรงดีรึเปล่าหรือมีปัญหาอะไรหรือไม่และจะสอนให้เรานวดนม และให้เราเริ่มทานวิตามิน E ค่ะ เพื่อให้นม และแผลผ่าตัดนิ่มขึ้น

รูปใบรับประกันซิลิโคน

     เมื่อทำเสร็จทางคลีนิคจะมีใบรับประกันซิลิโคนให้กลับบ้านไปด้วยค่ะ หน้าตาใบรับประกันซิลิโคนของSilimed ค่ะ มี 2 ใบ ซ้าย-ขวา

สรุปสิ่งที่ทำค่ะ

- คลีนิค Dream Clinic
- แพทย์ นายแพทย์ทรงยศ จันทจิตร์
- ซิลิโคน Silimed 390 cc ผิวทราย
- ผ่าตัดโดยใช้เทคนิค Dual Plane
- ตำแหน่งผ่าตัดใต้ราวนม
- ผ่าตัดโดยวิธีการดมยาโดยวิสัญญีแพทย์
- ขนาดหน้าอกปัจจุบัน ใส่เสื้อในคัพ 32D70
- ราคารวมทั้งหมดโดยประมาณ 64,900 บาท (ยังไม่รวมค่ายาที่นัดพบแพทย์ในแต่ละครั้งและค่าตรวจเลือดก่อนผ่าตัด)